การบริหารหนี้เป็นปัจจัยสำคัญในการวางแผนทางการเงิน
การขอสินเชื่อหรือกู้ยืมเงินอาจช่วยบรรเทาภาระทางการเงินในช่วงเวลาที่ยากลำบาก อย่างไรก็ตาม ควรมีการบริหารจัดการหนี้อย่างเป็นระบบ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาทางการเงิน
ต่อไปนี้เราจะมานำเสนอ 5 ขั้นตอนสำคัญในการจัดการหนี้ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริง มีขั้นตอนอะไรบ้าง
- ประเมินสถานะทางการเงินของตนเอง
- เริ่มต้นด้วยการตรวจสอบรายรับ รายจ่าย และภาระหนี้สินทั้งหมดของตนเอง คำนวณว่ายอดหนี้ปัจจุบันมีจำนวนเท่าใด และพิจารณาว่ารายได้ที่มีสามารถรองรับภาระหนี้ในแต่ละเดือนได้หรือไม่ หากพบว่าภาระหนี้เกินกว่าความสามารถในการชำระ ควรหยุดสร้างหนี้เพิ่มและตั้งเป้าหมายในการจัดการหนี้อย่างเป็นระบบ
- จัดทำบันทึกรายรับ-รายจ่าย และลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
- รวบรวมข้อมูลทางการเงินโดยแยกเป็นรายรับ รายจ่าย สินทรัพย์ และหนี้สิน พร้อมจัดทำบันทึกอย่างเป็นระบบ วิเคราะห์ว่า ค่าใช้จ่ายส่วนใดสามารถลดลงได้ หรือมีช่องทางใดในการเพิ่มรายได้เพิ่มเติม เช่น การขายสินทรัพย์ที่ไม่จำเป็นเพื่อนำเงินไปชำระหนี้
- วางแผนการชำระหนี้
- การกำหนดแผนการชำระหนี้อย่างเป็นลำดับ ซึ่งจะช่วยให้สามารถลดภาระหนี้สินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยแนวทางหลักในการวางแผนสามารถแบ่งออกเป็น 2 แนวทางสำคัญ ได้แก่
- ชำระหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยสูงก่อน วิธีนี้เน้นไปที่การลดภาระดอกเบี้ยสะสมที่อาจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มจากการสำรวจหนี้สินทั้งหมดและจัดลำดับหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงที่สุด เช่น หนี้บัตรเครดิต หรือสินเชื่อบุคคลที่มีดอกเบี้ยสูงจากนั้นให้จัดสรรงบประมาณเพื่อชำระหนี้ประเภทนี้เป็นอันดับแรก ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนดอกเบี้ยโดยรวมและช่วยให้สามารถปลดหนี้ได้เร็วขึ้นในระยะยาว
- ชำระหนี้ที่มียอดเงินน้อยที่สุดก่อน แนวทางนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดจำนวนเจ้าหนี้ให้เร็วที่สุดและเพิ่มกำลังใจในการจัดการหนี้ โดยการเลือกชำระหนี้ที่มียอดเงินต่ำสุดก่อน เพื่อให้สามารถปิดบัญชีหนี้บางส่วนได้เร็วขึ้นเมื่อลดจำนวนหนี้ลงแล้ว จะทำให้มีภาระการจัดการหนี้ลดลง ส่งผลให้สามารถนำเงินที่เหลือไปชำระหนี้ก้อนใหญ่ได้ต่อไป
- เจรจากับเจ้าหนี้เพื่อหาทางออกร่วมกัน
- หากพบว่ายังไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด ควรติดต่อเจ้าหนี้เพื่อขอเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ เช่น ขอขยายระยะเวลาผ่อนชำระ ลดอัตราดอกเบี้ย หรือเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการชำระให้เหมาะสมกับความสามารถทางการเงินของตนเอง
- พิจารณาการรีไฟแนนซ์เพื่อช่วยลดภาระหนี้
- หากการเจรจากับเจ้าหนี้ไม่เป็นผล หรือภาระหนี้ยังคงสูงเกินไป อาจพิจารณารีไฟแนนซ์โดยการรวมหนี้จากหลายแห่งมาไว้ที่เดียว เพื่อให้ได้อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงและลดภาระค่าใช้จ่ายรายเดือน อย่างไรก็ตาม ควรเลือกใช้สินเชื่อที่อยู่ภายใต้การกำกับของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันปัญหาจากการใช้บริการสินเชื่อนอกระบบ
ดังนั้น การบริหารหนี้ที่ดีช่วยลดความเสี่ยงทางการเงิน เริ่มจากการประเมินรายรับ-รายจ่าย วางแผนการชำระหนี้อย่างเป็นระบบ และลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น หากมีภาระหนี้สูงควรเจรจากับเจ้าหนี้หรือรีไฟแนนซ์เพื่อให้ภาระการชำระหนี้เบาลงและจัดการได้ง่ายขึ้น หากคุณต้องการขอสินเชื่อที่ถูกต้องตามกฎหมายเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน “CCAP” พร้อมให้คำปรึกษาและช่วยคุณวางแผนการจัดการหนี้อย่างมั่นคง
สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่ CCAP เบอร์โทร: 092-256-6801 หรือแอดไลน์มาได้เลย
คลิก 👉🏻 https://lin.ee/NEBc1fz , LINE ID: @helloccap
Reference Link